ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน หรือไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้งของผู้คนจะเปลี่ยนไปอย่างไร หนึ่งในวิถีการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ที่ยังคงทรงพลัง ไม่เปลี่ยนแปลง คือ โฆษณา ยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคถูกจู่โจมด้วยคอนเทนต์มากมายบนโลกออนไลน์ การโฆษณาจึงทวีความยากและท้าทายขึ้นกว่าเดิม ผู้ประกอบการ SME ยิ่งต้องหาเทคนิคลู่ทางให้โฆษณาของตนเป็นที่สนใจ ในขณะเดียวกันก็ต้องบริหารต้นทุนให้คุ้มค่า แต่ยังคงความสามารถในการเข้าถึง มัดใจลูกค้าและปิดขายให้ได้สำเร็จ
LINE ตอกย้ำบทบาทเพื่อนร่วมทางเคียงข้าง SME ไทย พร้อมผลักดันผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสุขภาพและความงาม ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 กลุ่มธุรกิจยอดนิยมในเมืองไทย ให้สามารถก้าวผ่านความท้าทายนี้ให้ได้ ผ่านงานสัมมนาครั้งใหญ่ BOOTCAMP CLASSROOM ภาคพิเศษ ในหัวข้อ “เจาะลึกความสำเร็จ ธุรกิจสุขภาพและความงาม ด้วย LINE Ads” โดย โค้ชง้วง -ชวลิต เดชะนรานนท์ LINE Certified Coach หนึ่งในวิทยากร ได้ร่วมให้ความรู้เจาะลึกเกี่ยวกับ LINE Ads ระบบการยิงโฆษณาบน LINE พร้อมเผย 4 เทคนิคการยิงโฆษณาบน LINE ให้ต้นทุนถูกและคุ้มค่า พร้อมสร้างยอดขายเพิ่มได้ สำหรับธุรกิจสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ
1.สร้างกลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง ใช้ร่วมกับกลุ่มเป้าหมายหลัก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า แทนที่จะใช้กลุ่มเป้าหมายหลัก เช่น อายุ เพศ ความสนใจ ฯลฯ เพียงอย่างเดียว การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง เช่น ข้อมูลลูกค้าที่ร้านค้ามีอยู่แล้ว อาทิ อีเมลล์ เบอร์โทร ฯลฯ นำมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า ทั้งแม่นยำและเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น โดยร้านค้ายังสามารถนำข้อมูลลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้วดังกล่าว บวกกับข้อมูลด้านพฤติกรรม ความสนใจของลูกค้าบน LINE OA ที่ได้จาก Chat Tag มาต่อยอดในการขยายหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยการทำ Lookalike ได้อีกด้วย
อีกทั้งปัจจุบัน LINE ยังมีให้เลือกกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม อาทิ กลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ เช่น สุขภาพและการออกกำลังกาย ช้อปปิ้ง บิวตี้ กลุ่มเป้าหมายตามความตั้งใจในการซื้อ เช่น ซื้อผ่านออนไลน์ ซื้อด้วยบัตรเครดิต เป็นต้น ซึ่งการสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเองมาประยุกต์ใช้ร่วมกันเช่นนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาสำหรับธุรกิจสุขภาพและความงามได้เป็นอย่างมาก ทั้งในเชิงอัตราการคลิก CTR ที่สูงขึ้นถึง 42% และอัตราคอนเวอร์ชั่น CVR ที่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 10 เท่าหรือเกิน 1000% เลยทีเดียว
2.สร้างชิ้นงานโฆษณาให้น่าสนใจ กระตุ้นให้หยุดคลิก โดยชิ้นงานที่ดึงดูดสายตาคนมากที่สุดคือ รูปภาพและวีดีโอที่มีขนาดเหมาะสม สีสันสดใส ตัวหนังสือน้อย เห็นแล้วโดดเด่น เป็นที่น่าจดจำ สื่อสารถึงความแตกต่างที่เป็นจุดแข็งหรือความเชี่ยวชาญของแบรนด์ และที่ถือเป็นเทคนิคคลาสสิคตลอดกาล คือ การนำเสนอโปรโมชั่นจำกัดเวลา เพื่อกระตุ้นลูกค้าให้ทักมาทันที โดยโฆษณาในรูปแบบวีดีโอ ควรนำเสนอความเรียล เน้นการเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หากต้องการเพิ่มยอดขาย แต่หากเน้นสร้างแบรนด์ ควรคงไว้ซึ่งการนำเสนอที่มีความสวยงาม คุณภาพดี
3. อัปเดตค่าเฉลี่ยราคาประมูลอยู่เสมอ ด้วย LINE Ads เป็นระบบการลงโฆษณาผ่านการประมูล (Bidding) ผู้ประกอบการควรหมั่นศึกษา อัปเดตข้อมูลค่าเฉลี่ยราคาประมูลอยู่เสมอ เพื่อใช้อ้างอิงเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการยิงโฆษณาของแบรนด์ตน หากต้นทุนของแบรนด์ตนเองยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก ควรหาทางปรับปรุงเพื่อให้ต้นทุนต่ำลง ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนวัตถุประสงค์ เปลี่ยนรูปแบบชิ้นงานโฆษณา หรือปรับกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น ทั้งนี้ การที่ราคาประมูลสูง มักเกิดจากการแข่งขันของธุรกิจเหล่านั้นในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น หากแบรนด์ลองเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้แตกต่าง หรือเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อาจช่วยทำให้ราคาประมูลต่ำลงได้
4. สร้าง LINE OA ให้พร้อมรับยอดขายแบบไม่รู้จบ เมื่อธุรกิจคิดสร้างการรับรู้ให้แบรนด์และสินค้าผ่านโฆษณา สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้ คือการเตรียมหน้าร้านบนโลกออนไลน์อย่าง LINE OA ให้พร้อมรับลูกค้าได้อย่างครบครัน ทันท่วงที บริหารจัดการเส้นทางของลูกค้าเป็นอย่างดี ตั้งแต่หน้า Profile ต้องดูดี มีรายละเอียดร้านและรูปภาพที่น่าเชื่อถือ ยิ่งมีโล่สีน้ำเงินหรือสีเขียว ปรากฏอยู่หน้าชื่อบัญชี ยิ่งเป็นการการันตีถึงความมั่นใจ ว่าร้านค้าหรือแบรนด์ ผ่านการรับรองจาก LINE ว่าเป็นร้านค้าตัวจริง ถัดมาคือ ข้อความทักทาย หรือ Greeting Message ที่ควรมีข้อความต้อนรับลูกค้าด้วยชื่อแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อสร้างความประทับใจ และเมนูลัดด้านล่างห้องแชต หรือ Rich Menu ที่ควรนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นของร้านค้าไว้ครบถ้วน รวมถึงแปะลิงก์พร้อมให้ลูกค้าสามารถเข้าช้อปเองได้ เพื่อปิดการขายได้แม้ในช่วงนอกเวลาทำการของแอดมิน
ตามมาด้วยฟีเจอร์อื่นๆ บน LINE OA ที่ช่วยประหยัดต้นทุน และสื่อสารหาลูกค้าได้ตรงกลุ่ม โดนใจ เช่น ฟีเจอร์ Step Message ซึ่งถือเป็นการบรอดแคสต์แบบหน่วงเวลา โดยการตั้งค่าให้ลูกค้าแต่ละคน เห็นข้อความบรอดแคสต์ตามขั้นตอนหรือระยะเวลาที่กำหนดได้ ฟีเจอร์ Chat Tag ช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจหรือพฤติกรรมของลูกค้าที่ได้จากการพูดคุยเอาไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาก เมื่อนำมาใช้ควบคู่กับฟีเจอร์บรอดแคสต์ โดยร้านค้าสามารถนำข้อมูลลูกค้าที่ได้จากการใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ ไปสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike เพื่อนำไปใช้ยิงโฆษณาผ่าน LINE Ads ขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เข้ามาใน LINE OA ต่อได้ ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยการใช้ LINE Ads ควบคู่กับ LINE OA ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่รู้จบ
ทั้ง 4 เทคนิคนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ไทย สามารถนำไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงโฆษณาผ่าน LINE Ads ได้ทันที นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการโฆษณาให้คุ้มค่า ปิดการขายได้เพิ่ม ยังเป็นการเสริมศักยภาพให้ธุรกิจเติบโตผ่าน LINE ได้แบบไร้ขีดจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถรับชม BOOTCAMP CLASSROOM ภาคพิเศษ หัวข้อ “เจาะลึกความสำเร็จ ธุรกิจสุขภาพและความงาม ด้วย LINE Ads” ย้อนหลังได้ที่https://lin.ee/bVBVZ9M/wcvn พร้อมติดตามอัปเดตข้อมูล BOOTCAMP CLASSROOM คลาสปกติทั่วไปในแต่ละเดือน รวมถึงความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆ บน LINE และกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับ SME ไทย ได้ที่ LINE OA: @linebizth และเฟซบุ๊ก LINE for Business
#BOOTCAMPCLASSROOM #LINEAds #LINEforBusiness