วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ประเทศไทย – (ซ้าย) พิชุดา ไชยวังษา ทีม Display Advertising, LINE ประเทศไทย
(ขวา) จิรพัฒน์ เดชดนู หัวหน้าทีม Display Advertising, LINE ประเทศไทย
ในปัจจุบัน LINE ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำที่คนไทยใช้งาน ไม่เพียงเพื่อการสื่อสาร แต่ยังใช้งานเพื่อการทำธุรกิจ ทั้งในเชิงการสร้างแบรนด์ สร้างยอดขาย ด้วย LINE OA และในเชิงการโฆษณา สร้างการรับรู้ให้สินค้าและแบรนด์ผ่าน LINE Ads โดยล่าสุด LINE ได้จัดงานสัมมนาออนไลน์ LINE Ads Talk 2024 โดยมีทีม Display Advertising LINE ประเทศไทย ร่วมเผยผลความสำเร็จของ LINE Ads อันเนื่องมาจากการพัฒนาระบบ Machine Learning และการเพิ่มตำแหน่ง รูปแบบโฆษณาใหม่ๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแม่นยำขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ช่วยลดต้นทุนให้ธุรกิจได้อย่างเห็นผลทันตา ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ในเชิง CPM ที่ลดลง 8% CPC ที่ลดลงกว่า 18% CPF ที่ลดลง 22% และ CPV ที่ลดลง 11% เมื่อเทียบกับผลลัพธ์โดยรวมในปี 2023 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์มได้ผลดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งผล CTR โดยรวมเพิ่มขึ้น 16% และผลการมองเห็นโฆษณาโดยรวม หรือ CVR เพิ่มขึ้นถึง 18% จากปีก่อน
โดยในงาน LINE ยังได้เผยเทรนด์การใช้งาน LINE Ads ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า ปัจจุบันธุรกิจส่วนมากในไทย มักมีเว็บไซต์หรือหน้ารายการสินค้าให้พร้อมช้อปไว้เป็นของตนเอง จึงมีความต้องการให้เกิดการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ทำให้วัตถุประสงค์การโฆษณาเพื่อ Website Visit ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้ ตามมาด้วยวัตถุประสงค์ Gain Friend และวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงหรือ Reach
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่การเติบโต วัตถุประสงค์ที่มาแรงที่สุดคือ Smart Channel Custom ด้วยผลคาดการณ์อัตราการเติบโตภายในสิ้นปีอยู่ที่ 216% โดยเฉพาะจากกลุ่มสินค้าเทคโนโลยี ช้อปปิ้ง และบริการทางการเงิน ตามมาด้วยวัตถุประสงค์ Website Conversion โฆษณาที่กระตุ้นให้ลูกค้าเข้าไปทำธุรกรรม ซื้อของในหน้าเว็บไซต์ ด้วยแบรนด์มีการพัฒนา Conversion API มารองรับการติดตามผลมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มการเงิน ที่ต้องการเก็บ Lead ลูกค้า และกลุ่มช้อปปิ้ง อาหารเสริม อันดับสามคือวัตถุประสงค์ Website Visit ที่ยังคงเป็นวัตถุประสงค์ที่แบรนด์ให้ความสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มการเงิน ยานยนต์ และช้อปปิ้ง
ในด้านความสนใจของผู้บริโภค LINE เผยว่า แนวโน้มความสนใจในการคลิกโฆษณาบน LINE Ads คือโฆษณาจากสินค้าหรือธุรกิจช้อปปิ้ง จากผลคาดการณ์ค่าเฉลี่ย CTR สูงสุดอยู่ที่ 0.51% ตามมาด้วยโฆษณากลุ่มบริการทางการเงิน 0.44% และโฆษณากลุ่มสินค้าแม่และเด็ก 0.42% ทั้งนี้ ผลลัพธ์ประสิทธิภาพจากการยิงโฆษณาของแบรนด์จะขึ้นอยู่กับรูปแบบโฆษณา ตำแหน่งโฆษณา และการจัดการแคมเปญที่แตกต่างกันไป
โดยในปีนี้ LINE มุ่งเดินหน้า 4 กลยุทธ์หลักในการพัฒนา LINE Ads อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1.เพิ่มพื้นที่โฆษณา นอกจากเผยข้อมูลอินไซต์ของตำแหน่งโฆษณาใหม่ล่าสุด คือใน LINE ALBUM ซึ่งมีผู้ใช้งานประจำกว่า 24 ล้านคนต่อเดือนเป็นกลุ่มวัยทำงานคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 20-29 ปี ที่มีกำลังซื้อ พร้อมรองรับโฆษณาในรูปแบบรูปภาพแล้ว LINE Ads ยังเผยแผนการเพิ่มตำแหน่งโฆษณาในบริการอื่นๆ ในอนาคต อาทิ โฆษณาในห้อง Threads หรือห้องหัวข้อย่อยใน LINE โอเพนแชต โฆษณาในหน้า NOTE และโฆษณาใน LINE TODAY STORY เป็นต้น
2. เพิ่มความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมาย หลังจากมีการอัปเดตลักษณะกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกหรือ Persona Targeting ครั้งใหญ่ ให้นักโฆษณาสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดขึ้น ทั้งในด้านพฤติกรรมการช้อป (Shopping Behavior) และความตั้งใจในการซื้อ (Purchase Intent) ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นำมาซึ่งผลการใช้งานที่น่าประทับใจ ด้วยผลลัพธ์ Conversion Rate หรือ CVR เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า! พร้อมประกาศเพิ่มหมวดหมู่สินค้าใหม่ถึง 32 รายการในด้านความสนใจ (Interest) ให้นักโฆษณาสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม และมีแผนขยายเพิ่มหมวดหมู่สินค้าอีกมากกว่า 100 รายการในอนาคต
ทั้งนี้ ฟังก์ชั่น Auto Targeting ยังถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักโฆษณาไทย ในการให้ Machine Learning เข้ามาช่วยหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีโปรไฟล์คล้ายกลุ่มลูกค้าเดิมได้ เสริมประสิทธิภาพการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีคุณภาพด้วย AI ซึ่งผลจากแบรนด์ที่ทดลองใช้งานพบว่า สามารถเพิ่ม CTR ได้สูงถึง 54% เมื่อเทียบกับการเลือกกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจด้วยตนเอง
3.เพิ่มรูปแบบโฆษณาใหม่ ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น นอกจากพัฒนาระบบการอัปโหลดโฆษณารูปแบบ VDO บนหน้ารายการแชต เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักโฆษณาใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมแล้วLINE Ads ยังได้เพิ่มโฆษณารูปแบบใหม่คือ Carousel Ad ให้สามารถปรากฎบน LINE โอเพนแชตได้! พร้อมผลลัพธ์น่าประทับใจด้วยยอด CTR สูงกว่าโฆษณาแบบรูปภาพในตำแหน่งเดียวกันถึง 1.6 เท่า และถือเป็น CTR ทีสูงที่สุดในบรรดาโฆษณารูปแบบอื่นทั้งหมด
4. เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามผลโฆษณาให้ดีกว่าเดิม โดยในปัจจุบันLINE มีเครื่องมืออย่าง LINE Tag เป็นตัวช่วยในการติดตามพฤติกรรมลูกค้าบนเส้นทางการช้อปปิ้งหรือใช้บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม โดยมีการตั้งค่าตัวเลือกของพฤติกรรมลูกค้าในด้านต่างๆ ที่ต้องการติดตามเบื้องต้นผ่าน LINE Tag เรียกว่า Standard Event ไว้ให้ 7 รายการ อาทิ ผลพฤติกรรมการดูรายการสินค้า การเพิ่มสินค้าในตะกร้า การเริ่มกดชำระสินค้า การซื้อ (Purchase Event) การให้ข้อมูลติดต่อ (Lead Gen Event) เป็นต้น ช่วยให้นักโฆษณาสามารถเลือกผลพฤติกรรมลูกค้าที่ต้องการติดตามได้ชัดเจน สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องวุ่นวายในการกำหนดเองอีกต่อไป พร้อมช่วยให้ระบบเรียนรู้และประมวลผลการติดตามได้ดีขึ้น สามารถช่วยให้ต้นทุน CPA ลดลงถึง 22% โดย LINE Ads ยังมีแผนสำหรับนักโฆษณาที่เลือกติดตามผลพฤติกรรมการซื้อ (Purchase Event) ผ่าน LINE Tag สามารถใช้ ROAS Optimization ได้อีกด้วยในอนาคต
LINE มีความเข้าใจในพฤติกรรมของคนไทยเป็นอย่างดี และได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบการลงโฆษณาบน LINE อย่าง LINE Ads ที่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีมากมาย เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพในการลงโฆษณาบน LINE มีความแม่นยำ อีกทั้งยังมีความครบครัน ตั้งแต่ตำแหน่งโฆษณาที่หลากหลาย รูปแบบโฆษณาที่ดึงดูดใจผู้บริโภคได้ และกลุ่มเป้าหมายที่นักการตลาดสามารถกำหนด เลือกสรรได้อย่างละเอียด ช่วยให้ทุกธุรกิจในไทย สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ผู้สนใจสามารถดูข้อมูล LINE Ads เพิ่มเติมได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/service/line-ads สำหรับธุรกิจองค์กรที่สนใจใช้งาน LINE Ads สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อสอบถามทีมที่ปรึกษาธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทยได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/contact หรือติดต่อสอบถามเอเจนซี่ที่ดูแลแบรนด์ของท่านได้ทันที หรือเลือกติดต่อพันธมิตรเอเจนซี่ของ LINE ได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/partner